วันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2556

การดูแลฝักเพชรบ้านนา

การดูแลฝักเพชรบ้านนา

หลังจากเขี่ยเกสรประมาณ 2 สัปดาห์ ฝักก็จะเริ่มเจริญเติบโต ช่วงนี้เป็นช่วงที่ต้องเริ่มให้น้ำเพราะถ้าขาดน้ำอาจจะทำให้ฝักล่วงหรือทำ ให้เมล็ดภายในไม่สมบูรณ์ได้ จึงควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ โดยการให้น้ำ
จะให้ในช่วงเช้า ให้พ่อประมาณ หรือจะให้เปียกไปเลยก็ได้ แต่อย่าถึงขั้นท่วมขัง



การให้ทางใบจะเป็นการฉีดอาหารเสริมพวกสาหร่าย กับฮอร์โมนพวก NAA จะช่วยทำให้การเจริญเติบโตของฝักเร็วขึ้นและทำให้ขั้วฝักเหนียวไม่หลุดล่วง ได้ง่าย แล้วยังช่วยทำให้เกสรตัวผู้สมบูรณ์อีกด้วย NAA อัตราที่ใช้ 1-2 cc.ต่อน้ำ 20 ลิตร
พวกสาหร่ายใช้ 1 ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 20 ลิตร



การใช้ฮอร์โมน NAA ใช้ 2 ครั้ง โดยใช้สัปดาห์ละครั้งก็พอหลังจากนั้นฝักเริ่่มโตแล้วขั้วฝักใหญ่สมบูรณ์ดี ก็หยุดใฃ้ได้แล้วครับส่วนการใส่ปุ๋ยให้ใส่สัปดาห์ละครั้ง ปกติแล้วฝักจะมีอายุประมาณ 3 เดือน ฝักก็จะแก่ ดังนั้นช่วงเดือนที่ 3 ให้หยุดการให้ปุ๋ยได้แล้วครับ และการให้น้ำควรให้น้อยลง ให้ดินมีความชื้นน้อยๆ เพื่อให้ฝักแก่ตามกำหนด คือ 90 วัน ถ้ายังให้น้ำอยู่จะทำให้ฝักแก่ช้าออกไปอีก หรือช่วงฝักแตกจะทำให้ฝักมีความชื้นสูง ก่อนฝักจะแตกประมาณ 3 วันฝักจะเปลี่ยนจากสีเขียว
เป็นสีเขียวอมเหลือง แล้วจะแตกออกให้นำมาแกะออกผึ่งลมไว้สัก
2-3 วัน แล้วนำไปเพาะได้ยังไม่จบนะครับ มาต่อเรื่องปัญหาที่เกิดขึ้นกับการถือฝักของเพชรบ้านนา และแนวทางในการแก้ไขกัน ครับ



1.ปัญหาติดฝักแล้วล่วง ปัญหานี้ส่วนใหญ่เกิดจาก 2 สาเหตุ คือ เชื้อราที่มากับน้ำค้างหรือมาตามลมทำให้ขั้วฝักสลัดทิ้ง อีกอย่างหนึ่งก็คือการขาดน้ำอย่าต่อเนื่องเพราะว่าหลายท่านคิดว่าการรดน้ำ อาจจะทำให้ฝักล่วงและต้นไม้จะแตกใบอ่อนไม่ออกดอก เป็นการเข้าใจผิด จริงๆแล้วการที่เราปล่อยให้ไม้พักตัวโดยการ อดน้ำและอากาศหนาวเย็นตามธรรมชาติ ต้นไม้ก็จะออกดอก แต่ช่วงที่ติดผลแล้วควรเริ่มให้น้ำที่ละน้อยจนถึงให้ตามปกติ คือวันละครั้ง แล้วให้ปุ๋ยบ้างตามที่ได้กล่าวมา ต้นไม้จะแตกใบบ้างก็ไม่เป็นไรกลับจะเป็นผลดีเสียอีก เพราะใบจะช่วยส่งอาหารไปเลี้ยงฝักให้เจริญเติบโตได้เร็ว
โดยไม่ต้องดึง อาหารที่ลำต้นที่สะสมไว้ออกมามากเกินไปทำให้ฝักไม่สมบูรณ์เมล็ดรีบได้ ส่วนเรื่องเชื้อราเราแก้ปัญหาโดยการฉีดยากันเชื้อราทุกสัปดาห์ การฉีดควรสลับชนิดของยาไปเรื่อยๆอย่าให้ซ้ำเพราะจะทำให้เชื้อราดื้อยาได้ การติดฝักมากไปในกิ่งเดียวกันก้อาจสลัดฝักทิ้งได้เหมือนกัน ครับ
2.ปัญหา ฝักล่่วงดเพราะถูกน้ำฝน ผมเคยได้ฝังมาจากหลายท่านว่าในน้ำฝนมีไนโตรเจนสูงทำให้ชวนชมสลัดฝักทิ้ง จริงๆแล้วเป็นคำตาบที่ผิด ความจริงความคิดหลายอย่างที่ผมว่ามัไม่ถูกต้องนักแต่บางครั้งเป็นความเห็น ของผู้รู้ทั้งนั้นผมเองก็ไม่อยากขัด เรามาดูสาเหตุของการสลัดฝักของชวนชมและวิธีการป้องกันและแก้ไขกันดีกว่าก่อน อื่นต้องตั้งคำถามก่อนว่าในน้ำฝนมี N อยู่กี่ % แต่ที่รู้ๆในปุ๋ยสูตร 16-16-16 มี N อยู่ 16 %แน่นอนหมายความว่าในปุ๋ย 100 ก.ก.มี N อยู่ 16 ก.ก ผมลองใส่ปุ๋ยเข้าไปอย่างเต็มที่ก็ไม่เห็นฝักของชวนชมจะล่วง แต่โดนฝนแล้วมันล่วงได้อย่างไร สาเหตุที่จริงก็คือระหว่างข้อป้องของขั้วผลไม้ ฝักชวนชมด้วยเช่นกันถ้าถุกน้ำฝนที่มีสารหลายอย่างร่วมทั้งไนโตรเจนด้วย จะทำให้ขัวของผลไม้เกิดฮอร์โมนชนิดหนึ่งชื่อ เอทธิลีนที่สามรถทำให้ผลไม้สุกและขั้วหลุดล่วงได้ การปล้องกันทำได้ 3 วิธี คือ 1 ทำให้ไม้ออกดอกก่อนฤดูกาลแล้วให้ฝักแก่ก่อนที่จะโดนฝนวิธีที่ 2 ถ้าถูกฝนให้รีบฉีด ฮอร์โมน NAA จะช่วยให้ขั้วเหนียวไม่หลุดง่าย วิธีสุดท้าย สร้างโรงพลาสติกสำหรับเก็บแม่พันธุ์ ครับ
3.ปัญหาเรื่องเน่าปลายฝัก
ก็มีการวิเคราะห์กันไปหลายสาเหุต บางคนว่าเป็นเชื้อรา บางคนว่าเป็นสาเหตุมาจากความเค็มของมือที่ไปจับถูก บางคนก็ว่ามาจากการฉีดปุ่ย ยา ฮอร์โมน มากเกินไป บ้างคนบอกขาดธาตุอาหารบางอย่าง แต่ที่คิดตรงกับผมก็มีนะครับก็คือถูกแมลงมาวางไข่เช่นพวกมวนแดงฝ้ายและแมลง วันทอง โดยการต่อยและวางไข่ การป้องกัน ก็คือเมื่อติดฝักก็ควรจะเริ่มฉีดยาฆ่าแมลงอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และนำถุงนิรภัยใส่ตั้งแต่ฝักขนาดพอจะเริ่มห่อได้ ก็ห่อได้เลยครับ ถ้ามันเกิดเน่าไปแล้วล่ะทำอย่างไรเห็นเมื่อไหร่ให้รีบใช้มีดตัดออกและใช้ปูน แดงทา อาจจะช่วยได้ แต่ถึงอย่างไรฝักก็จะแก่ก่อนกำหนดอยู่ดี เมล็ดที่ได้จะสมบูรณ์ไม่ 100 %



ความยาวยาวของฝักที่โตเต็มที่

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2556

วิธีการตัดทดชวนชม

การตัดทดชวนชม

         พูดถึงเรื่องตัดทดนั้น ไม้ที่นิยมตัดทดมากๆคือ ราชขินีพันดอก โดยเฉพาะราชินีพันดอกกิ่งตอน เพราะมีการยอมรับแพร่หลายว่าตัดทดได้ แต่จริงๆแล้ว ป๋าโต้งบอกว่า ตัดทดได้ทุกสายพันธ์! ถ้าคุณจะทำ! เพราะถ้าไม้มันยืดๆ ไม่สวย จะปล่อยให้มันทิ่มลูกตาไปไย ตัดทดแม่งเยย ต่อให้เป็นบ้านนาก็ตัดทดได้ ถ้าเหมาะสมก็ตัดโลด (แต่ไม้ต้นไหนฟอร์มดีโดยธรรมชาติ หรือคอมแพค ก็ไม่ต้องไปตัดนะฮ๊าฟฟฟ)

ขั้นตอนการตัดทดคือ
1. สังเกตว่าไม้พร้อมหรือยัง
2. ตัด
3. แตกกิ่งใหม่ เลือกบางกิ่งเก็บไว้ และตัดบางกิ่งทิ้ง

1.สังเกตว่าไม้พร้อมหรือยัง

เมื่อตัดสินใจว่าจะตัดทดไม้แล้ว เราไม่สามารถตัดได้ทันทีที่ต้องการ ไม้ต้องพร้อมให้เราตัดด้วย.......ไม้ที่พร้อมตัดทดคือ ไม้ที่สมบูรณ์เต็มที่ ใบเต็มต้น เขียวปั๊ด นั่นแล คือไม้พร้อมแล้ว ยิ่งถ้าไม้เขียวๆยืดๆยาวๆ ยอดเดินปรี๊ดๆๆๆ นั่นล่ะ ดีนักแล.......

ทำไมไม้ต้องสมบูรณ์?.........เพราะเมื่อเราตัดทดแล้ว ไม้สมบูรณ์น้ำเลี้ยงเดินดี จะทำให้ไม้แตกยอดใหม่ได้เร็ว และเยอะ ไม้ฟื้นเร็ว และไม่เสียไม้ ใช้เวลาทำไม้น้อยลง ประหยัดเวลา....ตอนผมทำไม้ใหม่ๆ ไม่มีความรู้ผมเคยทะลึ่งตัดทดไม้ที่ แขวนไว้โทรมๆด้วยความเบาปัญญา ผลที่ได้คือ กว่าจะแตกตาใหม่ ใช้เวลา 1 กัลป์ 555555

หากเราจะรีบตัดทด หลังลงปลูกก็ได้ครับ แต่รอไม้ฟื้น ยอดเดินดี (ไม้กินน้ำได้แล้ว) ยอดเดินก็ตัดทดได้ครับ ถือว่าโอเค แต่ถ้าชัวร์สุด รอให้สมบูรณ์มากๆ จะดีที่สุดครับ

2. ตัด

 ฉับๆๆๆๆๆ พอไม้พร้อม ก็ถึงขั้นตอนตัดครับ แนะนำให้ใช้มีดคมๆครับ กรรไกรคมๆก็ใช้ได้ ถ้าจุดที่ตัดทดเป็นกิ่งเล็กๆ แต่ใช้มีดคมๆ ไม้จะช้ำน้อยกว่าเพราะกรรไกรบางทีถ้าคมไม่พอจะบีบไม้ให้ช้ำ

วิธีการตัด ให้ตัดจากกิ่งเมนก่อน แล้วไล่ตัดกิ่งถัดออกมา ไล่ออกมาเรื่อยๆ จนถึงกิ่งล่างสุด (กิ่งนอกสุด)

เหตุผล เราตัดจากกิ่งเมนก่อนเพื่อ ควบคุมความสูงของไม้ที่เราต้องการได้ และควบคุมกิ่งอื่นๆให้ได้ทรงบลูมได้ง่ายครับ วิธีการตัดก็ตัดจากกิ่งเมน เช่นอยากให้ไม้สูง 25 cm. อาจตัดทดให้ไม้สูง 22-23 cm. เผื่อยอดเดินก็ 25 cm. พอดี หลังจากนั้นให้ตัดกิ่งรอบๆ ไล่ออกมาทีละชั้นๆ จนถึงกิ่งล่างสุด (กิ่งนอกสุด) วิธีตัดให้เล็งไม้ให้ได้ทรงพุ่มกลมๆครับ อาจจะไม่กลมดิก อาจจะรีๆก็ได้ พยายามให้ทรงที่ตัดทด สมดุลกับรากที่มี หรือสมดุลกับทรงกระถางจะทำให้ไม้ดูดี มีชาติ มากขึ้นครับ เพราะไม้รากยาว กิง่สั้นไม่สวย, ไม้ที่กิ่งยาวทะลุกระถางไปมากๆก็ไม่สวย ลองเล็งๆดูครับว่าจะเอาทรงประมาณไหน

นอกจากนี้ การตัด ให้สังเกตตาไม้ที่จะแตกเป็นยอดใหม่ ยอดใหม่จะแตกไล่ลงมาจากจุดที่ตัด 3-6 ตา หากไม้สมบูรณ์ดี (จุดที่แตกยอด คือจุดที่เคยมีใบครับ) เพราะฉะนั้น เราก็เลือกได้อีกว่า จะให้แตกยอดตรงไหน หากจุดที่ตัดไม่เหมาะสม ให้เลื่อน ขึ้น-ลง ได้ เพื่อที่ว่า ตัดแล้ว จะมีการแตกกิ่งในตำแหน่งที่เราต้องการ.......พยายามตัดโดยด฿ตาไม้ แล้วคิดว่าถ้ายอดเดินออกจากตานั้นๆแล้ว จะเติมพุ่มให้เต็มแล้วสวยงามพอดีหรือไม่ พยายามเลือกตาไม้ ที่จะเติมเต็มจุดที่มีช่องโหว่ครับ พุ่มจะได้เต็มๆ

3. แตกกิ่งใหม่ เลือกบางกิ่งเก็บไว้ และตัดบางกิ่งทิ้ง

หลังจากตัดทด หากว่าสะดวก ให้ยกไม้เข้าร่มครับ เพราะไม้ไม่มีใบ ตากแดดไปก็ร้อนรากปล่าวๆ ปรุงอาหารก็ไม่ได้ ยกเข้าร่มโลด แต่ถ้าไม่สะดวก ตากแดดไว้ก็ได้ครับ (ผมก็ตากประจำ ขี้เกียจยก 555) ภายใน 1-2 สัปดาห์ ไม้จะแกยอดใหม่ เยอะหรือน้อยขึ้นกับความสมบูรณ์ก่อนตัดทด พอไม้แตกยอดใหม่เยอะๆ ต้องเอามาตัดทิ้งอีกครับ เลือกไว้เฉพาะบางยอดที่จะเพิ่มมูลค่าไม้

ก่อนจะเลือก ให้ยอดไม้เดินซักหน่อยก่อน ค่อยมาตัดทิ้ง เพราะถ้ายอดแทงมานิดเดียวตัดเลย เสี่ยงว่า ยอดที่เราเลือกไว้เจือกไม่เดิน ฝ่อไปล่ะ ซวยเยย T_T

วิธีเลือกนั้น กิ่ง 1 กิ่ง เราจะเหลือยอดใหม่ที่แตกออกมาไว้ 2-3 ยอด ไม่เกินนี้ เพราะไม้ที่เดินออกมาแล้วแตก 4 ยอด มันดูฝืนธรรมชาติ......ตำแหน่งมาตรฐานคือ ยอด ซ้าย กลาง ขวา ครับ ที่จะเก็บไว้ แต่ไม่ตายตัว พลิกแพลงได้ตลอด บางยอดอาจจะเก็บไว้ 2 บางยอดเอา 3 เล็งๆ แล้วคิดจ่อไปว่าอนาคตถ้ายอดมันเดินเป็นกิ่งใหญ่แล้ว ตำแหน่งนั้นๆมันสวยหรือไม่ หรือกิ่งจะวิ่งชนกันหรือไม่ (ดังนั้นยอดที่แตกแล้ววิ่งเข้าหาต้น โดนตัดทิ้งแน่ๆครับ)

พอตัดยอดที่ไม่ต้องการทิ้งก็เลี้ยงต่อไปตามปกติได้ครับ หากเลี้ยงให้สมบูรณ์มากๆก็ดีครับ แผลตัดทดจะหายไว และไม้ด฿สวยเป็นธรรมชาติ ดูไม่ออกว่าตัดทด

หมายเหตุ
1. ไม้ที่ตัดทดแล้ว จะยืดน้อยลง เพราะกิ่งเพิ่มขึ้น 3-4 เท่า น้ำเลี้ยงไปเลี้ยงไม่ทัน ไม้ก็ไม่ยืด
2. ตัดทด 2-3 มีดได้เลยครับ หากเลี้ยงหม้สมบูรณ์ ไม้ก็จบไว
3. ไม้ที่ตัดทดหลายมีด พุ่มแน่น ใบเยอะ ต้องรดน้ำเยอะๆครับ ไม่งั้นไม้คายใบเยอะ ไม้จะเหี่ยวฮะ

จบบันทึกเพียงเท่านี้ มีข้อสงสัยถามได้ครับ ถ้าผมตอบไม่ได้ ก็จะขอพี่โต้งมาอธิบายครับ

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ พี่โต้ง, พี่ราม, ชมรมชวนชมล้านนา และ เจ้าเกม ที่ถามจนมีบันทึกนี้ หากมีข้อผิดพลาด พิมพ์ผิด หรือข้อมลผิดเพี้ยน ขอน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ

ไม้ที่กำลังวางๆ แขวนๆ แบบนี้ ยังไม่ควรตัดทดจ้า ต้องรอปลูกแล้วไม้เดินก่อน


สมบูรณ์แบบนี้ พร้อมตัดทดจ้่า

ตัดทดเป็นทรงครึ่งวงกลมโดยประมาณ อันนี้ ตัดบางยอดทิ้งไปแล้ว รอยอดเดินแล้วตัดอีก และเข้าลวดๆ ฮ๊าฟ

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2556

การเขี่ยเกสรดอกชวนชม



การเขี่ยเกสรดอกชวนชม

          ช่วง เวลาที่เหมาะสมของการจะผสมเกสร (เขี่ยเกสร) ได้ตั้งแต่ 07.00-10.00 น. เป็นช่วงที่น้ำค้างเริ่มแห้งจากดอกหมดพอดี ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจะสุกไม่พร้อมกัน โดย 1-3 วันแรก ตั้งแต่ดอกเริ่มบาน เกสรตัวผู้จะพร้อมผสมพันธุ์ และมีให้เห็นเยอะมาก ถ้าใช้สายโทรศัพท์เขี่ยดู หลังจากวันที่ 3 ผ่านไปแล้ว เกสรตัวผู้จะน้อยลงและไม่ค่อยสมบูรณ์ ถ้าเขี่ยได้ เปอร์เซ็นต์ติดฝักจะน้อยมาก จึงควรเขี่ยช่วง 1-3 วันแรก ส่วนเกสรตัวเมียจะพร้อมและสมบูรณ์ ช่วงวันที่ 3-5 นับตั้งแต่ดอกเริ่มบาน ถ้านานวันเกินไป เกสรตัวเมียจะฟ่อไม่ติดฝัก (ไม่ต้องเด็ดดอกออกมาฉีกหาเกสรตัวผู้) ถ้าเป็นดอกซ้อนอาจจะต้องฉีกกันบ้างเพราะมีหลายชั้น เปอร์เซ็นต์ติด 90%

เริ่มขั้นตอนที่ 1 ใช้สายโทรศัพท์ ดัดปลายงอเหมือนไม้แคะหู 2 อันเลย

ขั้นตอนที่ 2 ใช้ปลายลวดเขี่ยเข้าไป แล้วค่อยๆ ดึงขึ้นมา

ดังขั้นตอนที่ 3 จะพบเกสรตัวผู้เป็นสีขาวปุยๆ ต้องหาให้เจอ ไม่ได้มีทุกดอก ไม่เจอก็พยายามต่อไป

ขั้นตอนที่ 4 สำคัญมากครับ เป็นเทคนิคได้ผลดีมาก "ใช้ปลายลวดอีกอันหนึ่ง เขี่ยเข้าไปในช่องอับของตัวเมีย เพื่อนำร่องก่อน เพราะถ้าเราไม่นำร่องก่อน จะเกิดปัญหาคือ เวลาจะเอาเกสรตัวผู้ที่ได้มา ใส่เข้าไปในอับเกสรตัวเมีย ก็จะติดอยู่ภายนอกไม่ยอมเข้าไป แต่ถ้าเราใช้ปลายลวดอันที่ 1 (ที่ไม่มีเกสรตัวผู้) นำร่องเข้าไปก่อน อับเกสรตัวเมียจะเปิดออกเป็นช่อง คราวนี้ก็ง่ายแล้ว ให้เอาปลายลวดอันที่ 2 (ที่มีเกสรตัวผู้ติดอยู่) ใส่เข้าไปในช่องที่มีรอยแยกแล้วดึงขึ้นเบาๆ ดึงขึ้นให้สุด "รยางค์" ที่เราเห็นเป็นเส้นๆ สีชมพู เกสรตัวผู้จะติดและร่วงหล่นอยู่ภายใน และจะผสมกลับเกสรตัวเมียเอง (เกสรตัวเมียจะอยู่ล่างสุดของโคนดอก)

ขั้นตอนที่ 5 เขียนชื่อว่า ผสมอะไรกับอะไรไว้กันลืม

ขั้นตอนที่ 6 ทุกอย่างโอเค ติดฝักแน่นอน รอเวลาฝักแก่ก็นำมาเพาะได้ ที่สำคัญ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียต้องเป็นคนละดอกกัน ดอกเดียวกันผสมกันเองจะไม่ติด เพราะช่วงเวลาไม่ตรงกัน
 

วิธีการเพาะกล้าชวนชม

การเพาะกล้าชวนชม


ขั้นตอนที่ 1 เตรียมวัสดุเพาะ...หาตะกร้ามาร่อนวัสดุเพาะให้เหมาะสม




ลักษณะที่เหมาะสม
รูเล็ก....ร่อนทรายละเอียดออก
รูกลาง...ร่อนเพอร์ไรท์ เอาที่ลอดรูมาใช้
รูใหญ่...ร่อนพีทมอส ร่อนหินภูเขาไฟ เอาที่ลอดรูมาใช้
พูดเรื่องรูๆ....ออกแนวเสียวๆ อิอิอิ...ขอแก้เป็นลอดช่องละกัน






     

ขั้นตอนที่ 2 วัสดุเพาะที่ใช้



1. พีทมอส 5 ส่วน
2. หินภูเขาไฟ 1 ส่วน
3. ทรายกลาง 1 ส่วน
4. เพอร์ไรท์ 1 ส่วน

อัตราส่วนออกมาตามรูปนี้ครับ





                                               

ขั้นตอนที่ 3 ใส่วัสดุปลูกลงไปตามอัตราส่วนนี้เลยครับ

       

ขั้นตอนที่ 4 คลุกเคล้าให้เข้ากัน

     

ขั้นตอนที่ 5 ทดสอบวัสดุที่ผสมเสร็จแล้ว โดย
1. กำไว้


2. คลายออก...ต้องไม่จับกันเป็นก้อน - แหะๆ...เรื่องมากจริงๆ

     

ขั้นตอนที่ 6 เตรียมภาชนะสำหรับใช้เพาะ

     

ขั้นตอนที่ 7 เอาเศษพีทมอส+หินภูเขาไฟ คลุกเข้ากัน รองก้นกระถาง

     

ขั้นตอนที่ 8 โรยรองก้นถาดหลุมครับ...พูดผิด...รองก้นหลุมสูงประมาน 1 ซม.

     

ขั้นตอนที่ 9 โรยวัสดุเพาะที่ผสมเตรียมไว้ ให้เต็มหลุม(ไม่ต้องกด) ปาดให้เรียบ



เตรียมวัสดุเพาะเสร็จแล้ว...เหนื่อยเหมือนกันนะเนี่ย...
มาดูโต๊ะทำงานผมซะหน่อยนะครับ...แข็งแรง มั่นคง (ภาษาใต้เรียกว่า..ฐานชับ)

     

ขั้นตอนที่ 10 เตรียมเมล็ดชวนชมที่จะเพาะนะครับ ต้องสด ใหม่ ...สมบูรณ์ ไม่ลีบ ไม่มีเชื้อโรคเชื้อรา...


ดูด้วยตาเปล่า...เอามาดมๆดูก็ได้ครับ..อิอิอิ ถูกต้อง ตรงตามสายพันธุ์ ตามแต่จะสรรหา...


     




ขั้นตอนที่ 11 แช่น้ำสะอาดประมาณ 30 นาที
- ผมไม่ใช้สารเคมีอื่นเลยครับ...เพราะชวนชมมีเปลือกเมล็ดบาง งอกไม่ยาก ก็เลยไม่ใช้ B1


หรือสารอื่นๆผสม ผมเคยทดลองเปรยบเทียบแล้วไม่มีผลแตกต่างกัน
- เพิ่มเติมนิดนึงครับ ปัจจัยในการเจริญเติบโตของพืช มี 2 ปัจจัยใหญ่ๆ คือ
1. Generic Factor ก็คือเกี่ยวกับพันธุกรรมที่ถ่ายทอดกันมาในแต่ละรุ่น
2. Environment ก็เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม...แบ่งเป็นสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิต เช่น คน สัตว์ เชื้อโรค ต่างๆ

 และสิ่งแวดล้อมที่ไม่มีชีวิต .แบ่งอีกเป็น ทางกายภาพ เช่นแสง อุณหภูมิ เสียง ฯลฯ
 สิ่งแวดล้อมทางเคมี....โอ๊ย...ปวดหัว
...สรุปแล้ว...ลองคิดดูว่าปัจจัยเหล่านี้มีผลกับการเจริญเติบโตของชวนชมเราได้อย่างไรบ้าง
 แล้วจัดการให้เหมาะสม...




     




ขั้นตอนที่ 12 ก่อนจะเริ่มวางเมล็ด สเปรย์น้ำให้วัสดุเพาะยุบตัวเล็กน้อย

     

ขั้นตอนที่ 13 วางเมล็ด.ผมวางแนวนอน วางแบบแนวตั้งไม่เป็น



ยังดูไม่ออกครับว่าด้านไหนยอดด้านไหนราก..


     




ขั้นตอนที่ 14 วางเมล็ดเสร็จ...ร่อนวัสดุกลบหน้าบางๆ... ความหนาของวัสดุเพาะที่กลบเมล็ด



ประมาณ 2 เท่าของความหนาของเมล็ด...ลึกมากดันไม่ขึ้น ตื้นไปผิวแห้ง ไม่งอกอีก...เรื่องมากจริงๆ

ขั้นตอนที่ 15 ปาดวัสดุกลบหน้าให้เรียบ...แล้วสเปรย์น้ำให้ชุ่มวัสดุปลูก
 สังเกตุจากการที่มีน้ำไหลออกจากก้นถาดหลุม




     

ขั้นตอนที่ 16 ปักป้ายข้อมูล



-ข้อมูลในป้าย...หลักๆ ประมาณนี้ครับ...ไว้ติดตามผลการเจริญเติบโต
และอื่นๆที่สนใจจะศึกษา บันทึกไว้เลยครับ
      วันที่เพาะ
     ชื่อสามัญ
       แหล่งที่มาของเมล็ดพันธุ์
      จำนวนที่เพาะ
เมื่อเพาะเสร็จแล้ว ก็นำถาดเพาะไปวางไว้ที่ที่มีแสงรำไร
แล้วค่อยๆเพิ่มแสงปรับตามอายุของชวนชมครับ โรงเรือนเพาะเมล็ดควรมีหลังคา
หรือแผ่นพลาสติกใสกันฝน พรางแสงด้วยซาแรนระดับความเข้มที่แสงผ่านได้ 70%
- การให้น้ำ ให้น้ำตามความจำเป็น หมั่นสังเกตุดูครับ ผมให้น้ำครั้งต่อไป

เมื่อวัสดุเพาะเริ่มเปลี่ยนสีจากน้ำตาลเข้มเป็นสีน้ำตาลอ่อน เช็คแต่ละหลุมเลยครับ
- ยากันเชื้อรา ใช้อาลีเอทครับ ป้องกันโรคเน่าคอดินได้ดีมาก

ผมพ่นยาหลังจากเพาะไปแล้ว 1 สัปดาห์
- ปุ๋ย ให้ปุ๋ยเกร็ดละลายน้ำ สูตร 15 : 15 : 15 อัตราครึ่งหนึ่งของไม้ใหญ่
หรือเจือจางกว่านี้ 2 สัปดาห์/ครั้ง

                                

                                                            

ให้ทุกท่านสนุกและมีความสุขกับการปลูกเลี้ยงชวนชมทุกท่านนะครับ